รีวิวหนัง Making a Murderer (2015–2018)
เรื่องเริ่มจากการถ่ายติดตามเรื่องราวชีวิตชายคนหนึ่งกว่า 10 ปี
ที่ชื่อว่าสตีฟ เอเวอร์รี่ (Steven Avery) ชายชาวอเมริกา จากรัฐวิสคอนซิน
ที่ติดคุกนานถึง 18 ปีเพราะถูกกล่าวหาในคดีข่มขืนและพยายามฆ่า
ก่อนที่พยานหลักฐานเพิ่มเติมต่อมา ได้ชี้ชัดว่าเขาถูกกรมตำรวจสร้างหลักฐานเท็จ
และสร้างจุดเบี่ยงเบนให้ผู้เสียหายกับพยานจากคดี ด้วยการชี้นำการชี้ตัวที่ผิดพลาด
จนทำให้สตีฟ เอเวอร์รี่ เสียเวลาในช่วงวัยหนุ่มไปจนสิ้นในคุกที่ไร้อิสรภาพ
ซึ่งเรื่องราวควรจะจบแต่เพียงเท่านี้…
หากแต่หลังจากสตีฟ เอเวอร์รี่ ได้ยื่นคำร้องต่อศาล ในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย
ต่อชีวิตของเขาที่เสียไป 18 ปี จากการถูกจองจำในเรือนจำ กับจำเลยในคดีนี้
เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ต่อกรมตำรวจ และ หน่วยงานเทศบาลท้องถิ่นเมนิโนวอก เคาท์ตี้ (Manitowoc)
ที่เป็นเมืองขนาดกลางของรัฐวิสคอนซิน ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศสหรัฐอเมริกา
ซึ่งเป็นเมืองที่สตีฟ เอเวอร์รี่ ได้เกิดและเติบโตมา ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น…
ฟังดูแล้วเรื่องราวมันควรจะจบแต่เพียงเท่านี้ แต่ไม่ใช่ครับ นี่แค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น!
เพราะหลังจากที่สตีฟ เอเวอร์รี่ถูกปล่อยตัวออกมาเมื่อปี 2003
เขาก็ได้กลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด ที่เขาเติบโตมา กับครอบครัว ที่อยู่กับอย่างเงียบๆ
ตามวิถีชีวิตของคนชนบทในเมืองเล็กๆ และสู้ทำอาชีพซ่อมรถ และขายอะไหล่ต่อไป
ในธุรกิจเล็กๆของครอบครัว ที่เขาคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งชีวิตของเขากำลังไปได้สวย
เขากำลังจะมีเงินก้อนใหญ่รออยู่ตรงหน้า ที่พอจะทำให้ครอบครัวเขาอยู่อย่างสบาย
และเขาเองก็กำลังมีความรักครั้งใหม่ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่สตีฟเองวาดฝันไว้ทุกอย่าง
แต่…ทั้งหมดนั้นกำลังจะสลายลงในพริบตา!