รีวิวหนัง The Battle of Algiers (1966) สงครามแอลจีเรีย
สงครามแอลจีเรีย ยังเป็นที่รู้จักกันคือ สงครามเพื่ออิสรภาพแก่แอลจีเรีย หรือ การปฏิวัติแอลจีเรีย (อาหรับ: الثورة الجزائرية Al-thawra Al-Jazaa’iriyya; แม่แบบ:Lang-ber; ฝรั่งเศส: Guerre d’Algérie or Révolution algérienne) เป็นการสู้รบระหว่างฝรั่งเศสและแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติแอลจีเรีย(ฝรั่งเศส: Front de Libération Nationale – FLN) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1954 ถึง ค.ศ. 1962 ซึ่งนำไปสู่แอลจีเรียได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส ด้วยสงครามการให้เอกราชที่สำคัญครั้งนี้ มันเป็นความขัดแย้งที่ซับซ้อนที่เห็นได้อย่างเด่นชัดด้วยสงครามรบแบบกองโจร การสู้รบของขบวนการมาร์กี และมีการใช้ทรมาน ความขัดแย้งครั้งนี้ได้กลายเป็นสงครามกลางเมืองระหว่างชุมชนต่างๆและชุมนุมภายใน[20] สงครามครั้งนี้เกิดขึ้นส่วนใหญ่ในดินแดนแอลจีเรีย กับผลกระทบต่อประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่
การเริ่มต้นอย่างมีประสิทธิภาพโดยสมาชิกแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติ(FLN) เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1954 ในช่วง Toussaint Rouge(วันสมโภชนักบุญทั้งหลายสีแดง) ด้วยความขัดแย้งครั้งนี้นำไปสู่วิกฤตการณ์ทางการเมืองอย่างร้ายแรงในฝรั่งเศสทำให้สาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 4 ล่มสลาย(ค.ศ. 1946-58) ถูกแทนที่ด้วยสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 5 พร้อมกับประธานาธิบดีที่เข้มแข็ง ด้วยความโหดร้ายของวิธีการที่ใช้โดยกองทัพฝรั่งเศสได้ล้มเหลวในการเอาชนะหัวใจและวิญญาณในแอลจีเรีย การสนับสนุนที่แปลกๆในประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่และชาวฝรั่งเศสที่มีศักดิ์ศรีในต่างประเทศต้องอับอาย
แผนการของฝรั่งเศสในการถอนกำลังนำไปสู่วิกฤตการณ์รัฐ รวมถึงความพยายามต่างๆที่จะลอบสังหารเดอ โกล รวมทั้งความพยายามที่จะก่อรัฐประหาร อดีตส่วนใหญ่ที่ถูกดำเนินโดย Organisation armée secrète (OAS), เป็นองค์กรใต้ดินที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาจากบุคคลากรทางทหารส่วนใหญ่ของฝรั่งเศสที่สนับสนุนชาวฝรั่งเศสในแอลจีเรีย ซึ่งได้ก่อการวางระเบิดและฆาตกรรมจำนวนมากทั้งในประเทศแอลจีเรียและในแผ่นดินเกิดเพื่อหยุดยั้งแผนการให้อิสรภาพ
เมื่อได้มอบอิสรภาพแล้วในปี ค.ศ. 1962 ชาวยุโรป-แอลจีเรีย(Pieds-noirs) 900,000 คนได้ลี้ภัยไปยังฝรั่งเศสภายในเวลาไม่กี่เดือนเพราะหวาดกลัวการล้างแค้นของแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติ รัฐบาลฝรั่งเศสไม่ได้เตรียมความพร้อมสำหรับผู้ลี้ภัยจำนวนมหาศาลซึ่งทำให้เกิดความวุ่นวายในฝรั่งเศส ชาวมุสลิมแอลจีเรียส่วนใหญ่ที่ทำงานให้กับฝรั่งเศสจะถูกปลดอาวุธและถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง เนื่องจากข้อตกลงระหว่างทางการฝรั่งเศสกับทางการแอลจีเรียได้ประกาศว่าจะไม่ดำเนินการอะไรใด ๆกับพวกเขา[28] อย่างไรก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวกฮาร์คิส(Harkis) มีหน้าที่ในการสนับสนุนแก่กองทัพฝรั่งเศส ถูกตราหน้าว่าเป็นพวกทรยศและหลายคนถูกสังหารโดยแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติหรือไม่ก็ถูกรุมประชาทัณฑ์ มีบ่อยครั้งหลังจากถูกลักพาตัวและถูกทรมาน[13]:537[29] มีจำนวนประมาณ 9,000 คนได้หลบหนีไปยังฝรั่งเศส[30] บางคนได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ชาวฝรั่งเศสที่ปฏิบัติด้วยการขัดคำสั่ง และในปี ค.ศ. 2016 พวกเขาและลูกหลานได้กลายเป็นส่วนที่สำคัญของประชากรแอลจีเรีย-ฝรั่งเศส